From : Overdrive Guitar Magazine No.27 , September 2000
วันนี้จะขอพูดถึงมือกีตาร์ระดับตำนานคนหนึ่งที่เพียบพร้อมทั้งเทคนิคและมิวสิคเคิล และมีอิทธิพลต่อมือกีตาร์รุ่นหลังอย่างมาก และก็เป็นหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนในทศวรรษ 70 โดดเด่นมากในสาย Fusion Jazz ก็คงหนีไม่พ้น Al DI MEOLA
Al DI MEOLA เป็นมือกีตาร์ที่มีผลงานชิ้นแรกตั้งแต่ปี 1976 ในอัลบั้ม Land of the midnight sun แต่งานที่ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วก็อัลบั้ม Elegant Gypsy ในปี 1977 และจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็มีผลงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ จนถึงปัจจุบัน รวมอัลบั้มเดี่ยวของเขาก็น่าจะสัก 20 อัลบั้มได้
เขาเข้าเรียนดนตรีที่ Berklee School of Music ( ในตอนนั้น ) ปี 1971 แต่เรียนได้ 2 เทอมด้วยความโดดเด่นของตัวเขาเอง ทำให้ Chick Corea ชวนเขาไปร่วมเล่นด้วย ซึ่ง Al DI MEOTA กล่าวไว้ว่า "ผมอยู่ที่อพารต์เม้นท์ใน Boston เป็นบ่ายๆวันศุกร์วันหนึ่ง แล้ว Chick Corea ก็โทรมาชวนผมและถามผมว่า " มาซ้อมกับผมใน New York ได้ไหม"ในตอนนั้นChick Corea คือนักดนตรีคนโปรดของผมเลย และมาชวนผมไปอยู่กับกลุ่มคนดนตรีที่ผมชื่นชอบด้วย สำหรับผมแล้วมันเหมือนฝันที่เป็นจริงเลย ไม่เคยมีสิ่งที่ดีๆในชีวิตครั้งไหนเท่าครั้งนั้นเลย ในเวลา 10 นาทีผมเก็บกระเป๋าของใช้บางส่วนและเดินทางไป New York ทันที หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับมาอพารต์เม้นท์นั้นอีกเลย"
เขาได้เล่นกับ Chick Corea งานแรกที่ Carnegie Hall ในตอนนั้นเขาอายุแค่ 19 ปีเท่านั้น ในวงนั้นมี Stanley Clarke เล่นเบส และ Lenny White..., บวกกับเขาและChick Corea เปียโน พวกเขาสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับJazz Rock Fusion กันเลยจากจุดนี้ทำให้ประตูแห่งโลกดนตรีFusionเปิดอ้อมแขนรับเขาอย่างง่ายดาย ทำให้เขามีอัลบั้มเดี่ยว และที่ร่วมเล่นกับคนอื่นอีกนับครึ่งร้อยอัลบั้ม งานอีกชิ้นที่กล่าวขานกันมากในหมู่มือกีตาร์ก็คงเป็น Live ที่ชื่อ Friday Night in San Francisco ในปี 1981 ที่มีเขา John Mclaughlin และ Poco De Lucia ที่พวกเขาเล่นอคูสติคกีตาร์ 3 ตัวกันสดๆบนเวที และสร้างพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับกีตาร์ได้อย่างไม่น่าเชื่อในวันนี้เราจะมาดูเทคนิคการเล่นของเขากันว่า เขามีวิธีอย่างไรที่ทำให้กีตาร์ทุกตัวที่เขาเล่นนั้นดูเชื่อง ว่านอนสอนง่ายได้ดังนั้น
Right- Hand Technic
จาก Hyper-speeds ของ Al DI MEOLA เขาจะใช้การดีดจากข้อมือตลอด เขากล่าวไว้ว่า " ผมไม่เคยใช้จากข้อศอกเลย ( เกร็งทั้งท่อนแขนแล้วใช้ข้อศอกเป็นตัวควบคุมความเคลื่อนไหว ) ใช้จากข้อมือตลอด ( ดูรูป A และB )ก็มีบางครั้งที่ใช้จากนิ้วโป้ง แต่ก็ไม่มากนัก ส่วนมากก็จากข้อมือ ผมไม่สามารถเล่นได้ถ้าข้อมือของผมล๊อคไว้กับแขน เมื่อผมเห็นมือกีตาร์ที่เล่นแล้วล๊อคข้อมือไว้ ซาวนด์ที่ออกมาก็น่าเกลียดเหมือนกับที่เห็นนั่นหละ"Al DI MEOLA ชอบที่จะวางมือขวาของเขาไว้บนสะพานสาย [bridge] สำหรับการเล่นที่เป็น single-note (ดูรูป C) เขาจะถนัดมากและง่ายต่อการใช้เทคนิค mute string ( การวางอุ้งมือทับบนสายทำให้เกิดเสียงบอดนิดๆ ) ลักษณะนี้สามารถเรียกว่าเป็น เอกลักษณ์ของเขาเลย "แต่เวลาผมเล่นที่ลักษณะออกเป็นรูปคอร์ดมากๆ ข้อมือผมจะลอย ไม่ติดสะพานสาย " เขากล่าวไว้ ( ดูรูป D ) เขานิยมใช้สายเบอร์ 009 สำหรับ electric Guitar และ 012 สำหรับอคูสติคกีตาร์
Alternate Picking
นี่เป็น Riff จากเพลง Kiss My Axe อยู่ใน E Dorian [ E , F# , G , A,B , C# , D ] เป็นแบบฝึกหัดที่ดีสำหรับมือซ้ายและมือขวา และใช้ Alternate picking ( ปิ๊คสลับ ) ใน 2 สาย สำหรับRiffนี้เริ่มจาก upstroke( ปิ๊คขึ้น )ก่อน ( ดู Ex.1 )
และเทคนิคปิ๊คของเขา เขาแนะนำให้ฝึก 4 แบบนี้
1.Down Stroke ( ลงอย่างเดียว )
2.Up Stroke ( ขึ้นอย่างเดียว )
3.Down-Up Stroke ( ลง -ขึ้น )
4.Up-Down Stroke ( ขึ้น - ลง )
ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของโน้ต เทมโป และการเคลื่อนของข้อมือขวา
Hammer - on
เป็นอีก 1 เทคนิคที่ Al DI MEOLA ใช้ประกอบในการเล่นของเขา นี่เป็นบางส่วนจากเพลง Kiss My Axe โดยเขาใช้ Hammer - on ผสมกับ sliding trill ( เทคนิคสไลด์และต่อด้วยเทคนิค trill , trill คือการเล่นโน้ตที่ต่างกันเร็วๆโดยใช้เทคนิค Hammer - on & pulloff ) เพื่อสร้างสุ้มเสียงเลียนแบบ Keyboard เขากล่าวว่า " เป็น lick ที่ยากในการเล่นที่เทมโปเร็วๆ วางตำแหน่งนิ้วลงบน Fret และ Slide ให้ข้ามจากด้านหนึ่งของ Fret ไปยังอีกด้านหนึ่งพอลองยกนิ้วโป้งออกจากหลังคอกีตาร์ของคุณก็จะช่วยให้ง่ายขึ้นในการเล่นเทคนนิคนี้ ( ดู Ex.2 )
นอกเหนือจากนี้ Al DI MEOLA ก็มีการใช้ปิ๊คในลักษณะอื่นอีกลองดูใน Ex.3
Cross Picking
นี่คือเทคนิคทีสร้างชื่อเสียงให้กับเขาอย่างมาก ในตัวอย่างนี้การเล่นAlternate picking ( ปิ๊คสลับ )จะดีที่สุด เขากล่าวว่า " พยายามเคลื่อนมือขวาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนมือซ้ายค้างเสียงโน้ตยาวไว้เลย ( ดูรูป E )และหลังจากนั้นลองเลื่อนตำแหน่งดีดจากคอกีตาร์เลื่อนมาทางสะพานสาย ค่อยๆเลื่อนจะสามารถสร้างความแตกต่างของเสียงและสุดท้ายก็เพิ่ม dynamic ( หนัก -เบา )เข้าไป" เริ่มเล่นจากช้าๆก่อน
อีกหนึ่งเทคนิคที่เขาใช้บ่อยๆก็อย่างใน ส่วนใน Ex.4 จะซับซ้อนมากกว่า Ex.3 ใน Ex.นี้จะต้องระวังอย่าให้นิ้วที่กด Fret อยู่ ไปโดนสายเปิดที่ปล่อยไว้ สายเปิดต้องปล่อยให้เสียงค้างยาวตลอด ( ดูรูป F-1 ) Ex.5 เขากล่าวว่า"โน้ตในลักษณะนี้ถ้าใช้Alternate จะทำให้เล่นยาก จะง่ายกว่าถ้าเล่นUp Stroke ใน 2 สายบนและ Down Stroke ในสาย 3 ดีกว่า และยังมีอีกหลายเหตุผลที่Alternate picking อาจจะไม่เหมาะกับตรงนั้น คุณจะต้องทดลองหาจนคุณพบpicking ที่เหมาะกับจุดนั้นด้วยตัวคุณเอง"
นี่คงพอเป็นแนวทางที่พอจะสร้างความเข้าใจในตัวของเขาได้ดีขึ้น แต่ผมขอแนะนำให้วิเคราะห์แนวทาง , เทคนิคและไอเดียในการเล่นของเขา แล้วนำมาผสมกับแนวทางของตัวคุณเองที่ตัวตนของคุณชอบ จะมีประโยชน์สุดดีกว่าแค่นั่งก๊อปปี้โดยไม่คิดอะไรเลย ประโยชน์ที่ได้ไม่น่าจะคุ้มกับเวลาที่เสียไป ฉบับนี้แค่นี้ก่อน ไว้เจอกันฉบับหน้า.
From : Overdrive Guitar Magazine No.27 , September 2000
No comments:
Post a Comment