Champ : ชื่อ แชมป์ ครับ ธนัช เมทะยานนท์ อายุ 19 ปี
OD : ประวัติทางด้านดนตรี
Champ : เริ่มเล่นดนตรีก็ตั้งแต่คุณแม่สอน ตอนนั้นก็คือสอนให้เล่นเปียโน
OD : ตอนนั้นอายุเท่าไหร่
Champ : ประมาณ 5-6 ขวบ ครับ เพราะคุณพ่อ คุณแม่เป็นนักดนตรีครับ ก็เลยสอนให้ ก็เลยเล่นมาเรื่อย ประมาณ 8-9 ขวบ ก็คือคุณแม่เค้าไปต่างประเทศ ไปอเมริกาก็เลยไม่ได้เล่นอะไรมากมาย คุณพ่อก็คือเป็นนักดนตรีก็เลยสอนให้เล่นกีตาร์ ตั้งแต่ตอนนั้นน่ะครับ ประมาณช่วงนั้นก็จะป.6 จะขึ้น ม.1 ครับ ก็เล่นพวกประมาณ 60-70 อะไรพวกนั้นนะครับ
OD : เช่นอะไร
Champ : เช่น Rock Bottom, Smoke On The Water
OD : Stairway To Heaven
Champ : Stairway ตอนนั้นยังเล่นไม่ได้ครับมันเร็ว ก็เล่น Smoke On The Water พวกอะไรพวกเนี้ยครับ
OD : แสดงว่าคุณพ่อชอบร็อค
Champ : คุณพ่อชอบร็อค ครับ ก็คือเค้าบอกให้หัดเป็นพื้นฐานไว้จะดีนะครับ ก็เลยเล่นตามมาตั้งแต่ตอนนั้น ก็ประมาณ ม.ปลาย ตอนนั้น ม.4 ม.5 ก็เริ่มแบบว่า เริ่มเล่นพวก Neo บ้าง พวก Morning Star พวกอะไรอย่างนี้นะครับเริ่มแกะเล่น ก็คือตอน ม.ต้นนี่ก็ตั้งวงเล่นกับเพื่อนอยู่ครับ เล่นกับเพื่อนแบบว่า คือเห็นรุ่นพี่เค้าเล่นกัน ตอน ม.3 ผมว่าน่าจะมันส์ ก็เลยตั้งวงกันตั้งแต่ ม.2 ม.3 ก็ตั้งมาเรื่อยครับ พอ ม.4 เราก็เล่นพวกนี้
OD : แกะมั่ง ดู tab บ้าง คือแบบว่าไงละ
Champ : ครับ แกะมั่งประมาณนั้นครับ แล้วก็คือที่บ้านก็จะทำห้องอัดเสียง คือตอนนั้นเป็นห้องอัดเสียงแล้ว คือ ตอนแรกซื้อเครื่องมาเรื่อยๆ นะครับ ซื้อเก็บมาเรื่อย แล้วทีนี้มันเริ่มเยอะ เริ่มเยอะจนแบบว่ามันทำในห้องนอนงัยตอนแรก เป็นแบบเค้าเรียกว่างัยนะครับ bedroom studio ใช่มั้ยครับ ทีนี้มันเริ่มเยอะ แล้วพ่อก็เลยกั้นห้องให้ทำเป็นห้องอัด ก็เอาเครื่องลงมาทำเป็นห้องอัด ก็เริ่มทำเพลงตรงนั้น
ทำเพลงเสนอค่าย พวกแกรมมี่ อาร์เอส ก็เข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัดอยู่ คือก็ยังไม่ได้อัลบั้มอะไร ก็ไปเก็บเกี่ยว ประสบการณ์จากตรงนั้นในการทำเพลงก็พัฒนาในการทำเพลงขึ้นมา ก็จนแบบว่าตอนนั้นก็เข้าไปทำกับพี่แน็ท วาสนา ค่าย จีโน จีโนเรคคอร์ด อาร์เอส ก็หลายครั้งก็ยังไม่ได้ออก
OD : แล้วตอนนั้นทำเป็นอะไร
Champ : คือเพลงจะเหมือนเพลงตลาดครับ เพลงพวก Modern Rock เป็นพวกสมัยใหม่พวกพั้งค์ร็อค อะไรพวกนั้น ประมาณนั้น คือแบบว่า ก็ยังไม่ได้ออก ผมก็ทำมาเรื่อยๆ คราวนี้ก็ คือ มาช่วงหลังๆ วงแตก แต่คือเปลี่ยนมาขายวงแล้ววงแตก วงสุดท้ายนี่วงแตก คือมีแบบไปเล่นประจำบ้างนิดหน่อยครับ คือแบบว่าพอขึ้นมหาลัยกันทุกคนก็แยกย้ายกัน ไม่ไหว เรียนหนักกันบ้างอะไรแบบเนี้ย ผมก็เลยเออวงแตก ไม่มีอะไรก็เห็น Overdrive มีเปิดสมัครประกวด เราก็เลยลองซิ ประมาณนั้นครับ นี่ถ้าวงไม่แตกคงไม่ได้มาประกวด คงจมอยู่แบบนั้นต่อไป
OD : เรื่องของการฝึกหัดเล่นกีตาร์
Champ : ก็เรียนด้วยตัวเองด้วย แล้วมีอาจารย์ด้วย ก็อาจารย์ปิยะครับ เค้าก็มาแนะนำ มาสอน เอ้ยยังไม่ใช่นะตัว เค้าก็มาบอก เราก็มาปรับปรุงแก้ไข แล้วก็มาได้ประสบการณ์จากการอัดเสียง เพราะเวลาอัดเสียงมันต้องเนียนหน่อย แบบว่าต้องค่อมไม่ค่อมบีท เราก็ต้องเล่นให้ตรงจากที่เราอัด เพราะมันจะฟ้องตัวเอง บางทีมันก็ได้จากตรงนั้นด้วย
OD : หมายความว่าไง ห้องอัดเสียงเรา แล้วก็เล่นรับจ้างเล่นกีตาร์ให้เค้าด้วย
Champ : ใช่ครับ ก็มีแบบไปอัดรับจ้างอัดเสียงรับทำเพลงด้วยครับประมาณนั้น
OD : แล้วฝึกยังไง
Champ : เวลาฝึกกีตาร์ก็แบบว่ายังไงดี สมมุติว่าชอบเพลงไหนก็ลองหามาเล่นมาแกะดูก่อน แล้วก็บางเพลงก็อาจมีแนวคิดที่แบบ เออ บางทีลูกที่มันอาจจะไม่ยากมาก หรือยากมาก แต่มันเท่ส์เราก็เอามา Apply ใช้มั่งที่เอามาใช้กับตัวเองครับ
OD : แล้วที่ใช้ประกวดคิดยังไง ตอนที่เข้าประกวดรอบสุดท้าย คิดอะไรยังไงบ้างกับสิ่งเราเล่น
Champ : ก็ คือผมจะวางเตรียมง่ายๆ เป็นร็อคน่ะครับ สมมุติว่าร็อคมันหมายถึงแบบว่าคือซาวด์์พวกแบบว่า ซาวด์กีตาร์ หรือว่าริธึ่ม หรือโทนคัลเลอร์ของเพลง มันจะเป็นแบบว่า สมัยแบบ 2000 หน่อย ยุคใหม่หน่อย เพื่อความริธึ่มทันสมัย แต่เราอาจจะใช้เทคนิคของพวกแบบเพลงที่เราเคยเล่นมาสมัยก่อน มาประยุคใช้กับริธึ่มที่มันสมัยใหม่เพื่อให้มันฟังดูแบบว่าไม่ให้มันล้าหลัง แต่ผมจะไม่ได้คิดแบบว่า คือเทคนิคแต่ละเทคนิคมันต้องลงตัวในเพลง ไม่ใช่แบบว่าจะเร็ว ต้องแบบว่าลงตัวนิดนึง ให้มีเมโลดี้มีอะไรหน่อย ครับ
OD : แล้วฝึกวันละกี่ชั่วโมง ตอนนั้น
Champ : ตอนนั้น ตอนประกวดใช่มั้ยครับ ก็หนักเลยครับช่วงนั้น ก็ดีดเกือบทั้งวันเลยครับ อยู่บ้านผมจะว่างหน่อยครับ คือตอนแรกเวลาคิดเพลงจะคิดกับคอมพิวเตอร์ จะวางว่ามันประมาณนี้นะ บางทีถ้าลูกไหนไม่ได้ผมก็จะเขียน midi ในคอม เขียนแล้วก็ฝึกตาม บางที midi เป็นเสียงกีตาร์เหมือนพวก version guitarist เออเสียงประมาณนี้มันเพราะนะ เราก็ลองฝึกตาม บางทีมันคิดได้แต่ยังเล่นไม่ได้ ก็เลยต้องฝึกตามทำให้มันคล่อง อาจจะปรับทางนิ้วอีกทีแบบว่าที่เราแบบว่า ลูกนี้มันไม่ไหวจริงๆ ปรับหน่อย คือแบบนั้น
OD : ก็คือ คิดก่อนสร้างเนื้อแต่ง
Champ : ใช่ครับ คือไม่ได้แบบ อาจจะมีการ อิมโพไวส์ลงไปบ้างแต่ว่าเราจะขยายตอนอิมโพไวส์ครับ อย่างเช่นแบบว่า ลูกนี้เอาจากอิมโพไวส์ไปแล้ว 2-3 รอบ บางวงกีตาร์บางวง อิมโพไวส์ไปก่อนแล้วซัก 2-3 รอบแล้วก็ตัดลูกดีๆไว้แล้วก็มาขยายต่อ อะไรแบบนี้
OD : แล้วคิดยังไงกับเรื่องของการประกวดกีตาร์
Champ : ก็ดีนะครับ เพราะทำให้คนที่ยังไม่มีโอกาส มองหาช่องทาง ได้ลองทำในสิ่งที่คิดว่าตัวเองทำได้ดี
OD : แล้วมีความรู้สึกยังไงที่ตัวเองได้แชมป์
Champ : ตอนแรก ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ เพราะทุกคนเก่งๆ ทั้งนั้นเลย ครับ ตอนที่ได้ก็ตื่นเต้นครับเหมือนฝันเลยครับตอนแรก เฮ้ย! หลับอยู่หรือเปล่าเนี้ย ตื่นๆๆ นี่เรื่องจริง นะ เรื่องจริง เมื่อก่อนประกวดมางานไหนก็ไม่เคยได้รางวัลเลยครับ
OD : ประกวดเป็นวง
Champ : ประกวดเป็นวงครับ คือเหมือนกับเราทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเรา คือผมจะเป็นนักร้องนำด้วยไงครับ แล้วก็คือเล่นกีตาร์ด้วย โซโล่ จะมีเพื่อนอีกคนหนึ่งเล่นกีตาร์ อีกคนนึง บางทีเค้าจะโซโล่ผมก็เล่นริธึ่มร้องด้วย คือเราคิดว่า เออ เราทำในสิ่งที่มันน่าจะใช่เรานะ เค้าถึงให้เราได้ประมาณนั้น
OD : ฝากอะไรถึงคนเล่นกีตาร์คนอื่นๆ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ต่อๆ ไปถ้าเค้าอยากจะเป็น มือกีตาร์ที่ดี หรืออยากจะลงแข่งต่อๆ ไป
Champ : ก็บางที เล่นมันต้องอยู่ที่ความลงตัวเป็นหลักครับ ผมคิดว่า มันก็ไม่พ้นดนตรี มันก็มีอะไรนะ ฮาร์โมนี, เมโลดี้, ริธึ่ม, แล้วก็โทนคัลเลอร์ คือ 4 อย่างนี้ผมว่ามันต้องลงตัวก่อน ไม่ว่าจะยากหรือง่าย แต่ว่าถ้า 4 อย่างนี้ลงตัว แล้วใช้ตัวเราเป็นตัววัดหรือว่าคนรอบข้าง อย่าฟังคนเดียวสิ่งที่เราเล่น หัดเก็บไว้ฟังนี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะว่ามันได้ฟ้องตัวเราไงครับ คือถ้าเรามาคิดว่า เออมันใช่นะ มันเพราะ มันดี เออตรงนี้มันสุดแล้ว แต่ถ้ามีคนอื่นมาบอกว่าตรงนี้ยังไม่ดีนะ เค้าก็ต้องมาให้เหตุผลนะว่ามันไม่ดียังไง เปิดให้กว้างมันจะช่วยได้
OD : แล้วนอกจากกีตาร์แล้วเล่นอะไรได้อีก
Champ : เล่นได้ทุกชิ้นนะครับผม พวก เบส กลอง กีตาร์ แต่รู้สึกเปียโนนี้เล่นไม่ได้แล้ว ไม่ได้เล่นเลย
OD : แต่ก็คือเล่นเฉพาะที่เล่นได้
Champ : พอได้ครับ
OD : ร้องเพลงได้ด้วย
Champ : ครับร้องได้
OD : ร้องเพลงให้ฟังหน่อย
Champ : ร้องให้ฟังเลยเหรอ (หัวเราะ)
OD : อยากฟัง เอาเพลงอะไรก็ได้ ที่เรารู้สึกมั่นใจกับมันมากที่สุด
Champ : เพลงอะไรดีละ นึกไม่ออก ผมนึกก่อนนะ เอาเพลงที่แต่งเองดีกว่า หรือเพลงตลาด เพลงอะไรก็ได้ใช่มั้ย ท่อนไหนดีละ
OD : ท่อนไหนก็ได้ ที่เรารู้สึก ok มั่นใจ อิน
Champ : “เธอบอกให้ลืม เธอบอกให้ทำอย่างนั้น ให้ลืมเรื่องเรา แล้วให้ทิ้งมันไป” นิดเดียว
OD : นี่เพลงใคร
Champ : เพลงผมเอง
OD : แล้วอุปกรณ์ที่ใช้อยู่
Champ : อุปกรณ์เหรอครับ กีตาร์มันก็มีหลายตัวนะครับ แต่ว่าช่วงหลังๆ นี่ก็เล่น Ibanez
OD : เพราะว่า ?
Champ : เพราะว่า รู้สึกมันเล่นง่ายครับ มันมี 24 เฟรต มันครบนะครับ มีคันโยกอะไรด้วย
OD : แล้วก่อนหน้านี้เล่นอะไร Fender?
Champ : มีพ่อทำกีตาร์ด้วยครับ ทำเล่นเอง
OD : พ่อทำกีตาร์เอง? พ่อชอบ
Champ : ครับ เป็น คัสตอมของตัวเอง
OD : ทำหมดทั้งตัวเลย?
Champ : ทำแต่ปิ๊คอัพ ไปซื้อเอง
OD : อ๋อ เข้าใจ หมายความว่า คอ เฟรต วางเอง
Champ : ครับวางเอง คือมีเครื่องมือทำเอง เค้าทำกีตาร์ด้วยครับทำกีตาร์โปร่ง เป็นพวกหลังเต่าไงครับข้างหลังจะเป็นพวกเรซินครับ ปกติถ้าเป็นโอเวชั่นจะเป็นพวกพลาสติก แต่นี่จะเป็นเรซิน เค้าก็หล่อมาเป็นโครงข้างหลังแล้วมีไม้แผ่นหน้า แต่เลิกทำแล้วตอนนี้ ตอนนี้ก็ทำแบบว่าถ้าอยากทำแล้วค่อยทำครับ
OD : OK แล้วก่อนหน้าเล่น Fender ตอนนี้เปลี่ยนมาเล่น Ibanez ชอบ?
Champ : ครับ มันชอบเพราะเราเล่นกีตาร์ฮีโร่เนี้ย เล่นเร็วๆ มันเล่นง่าย คอมันบางเล็กครับ
OD : Effect ละ
Champ : Effect ก็ใช้พวก P.O.D อะไรแบบนี้นะครับ เวลาอัดก็ต่อตรงเลย แต่เวลาเล่นจริงเค้าให้ต่อ Return ครับ เข้ารู Return ก็แบบว่ามันจะตัดหัวแอมป์ไปเลยครับ ก็คือเราก็ใช้ตัวนี้เป็นหัวแอมป์แทน ไม่งั้นมันชนแอมป์เวลาต่อ Pre ซ้อน Pre มันจะบี้ ก็เลยใช้ตัวนั้น แต่ตอนนี้อยากใช้ตู้ อยากลองตู้ดู
OD : แล้ววันแข่งใช้อะไร
Champ : วันแข่งใช้ P.O.D. XT TC ไวท์เวิท ตัวประสานเสียงครับ เป็นคัมเวไนท์เซอร์มั่งครับ เป็นเกี่ยวกับเสียงประสาน เราก็ตั้งไว้คีย์ไว้ว่า สมมุติผมอีไมเนอร์ก็ตั้งไว้ แล้วก็มี TC G symtem เป็นพวกมูเมอร์เรชั่น แล้วก็เป็นแบบซิสเตม คือตัวนี้มันจะหลุดเอฟเฟ็กได้ 4 ตัว คือพวก POD มันจะดูดในตัวมันประมาณนั้น
OD : คติประจำใจทิ้งท้าย
Champ : ทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับ
No comments:
Post a Comment