พื้นที่ของแหล่งความรู้และเรื่องราวที่น่าสนใจ รวบรวมจากบทความ และบทเรียน ต่างๆใน Overdrive , Rhythm Section และ Com Music ซึ่งเป็นหนังสือในเครือ PMG โดยเฉพาะเล่มเก่าๆ ที่ตอนนี้หาซื้อไม่ได้แล้ว ซึ่งมีบทความมากมายที่รอให้ทุกๆคนได้สัมผัส

Thursday, November 29, 2007

WEAPONS OF DESTRUCTION

10 สุดยอดกีตาร์, แอมป์ และ เอ็ฟเฟ็คท์ของชาว heavy metal

by Chris Gill

From: Overdrive Guitar Magazine No.68, February 2004.

TOP 10 METAL GUITARS

10) Fender Stratocaster กีตาร์ที่เป็นยอดนิยมสำหรับคนทั่วโลกอาจไม่เป็นที่นิยมนักสำหรับกีตาร์ metal (นี่แปลว่ามีวัยรุ่นชาวบลูส์มากกว่าขา metal หรือเปล่าเนี่ย?) กระนั้น กีตาร์ตัวใดก็ตามที่มีบุญพอที่จะคู่ควรกับ Iron Maiden, Andreas Kisser, Richie Blackmore และ Yngwie Malmsteen ต้องอยู่ในรายชื่อลำดับนี้แน่นอน

clip_image002

9) Schecter Diamond Series มือกีตาร์ที่โด่งดังหลายคนที่เลือกเล่น Schecter ประเภทต่างๆ มากมายจนเราไม่สามารถที่จะเลือกระบุว่าจะพูดถึงรุ่นไหนดี แต่หลังจากที่ Jack Owen แห่ง Cannibal Corpse พูดว่าเขาจะหั่นผมเป็นชิ้นๆ และกินผมเสียถ้าผมไม่พูดถึง Schecter Diamond Series C-7 LE เจ็ดสายของเขาผมก็ขอบอกว่า เอาล่ะผมยอมแล้วครับ

clip_image004

8) Paul Reed Smith Custom ถ้ามีวง metal ออกมาบอกว่าต้องการคนที่เล่น Reed อย่าถือแซ็กโซโฟนไปเสนอหน้าให้เขาเห็นซะล่ะ นอกจากว่าคุณอยากลองของต้องการรู้ซึ้งถึงนิยามที่ว่า "metal up your ass" อย่างแท้จริง สิ่งที่ควรทำก็คือจงหยิบกีตาร์ Paul Reed Smith กีตาร์ที่ถูกใช้โดย Paul Allender แห่ง Cradle of Filth, Jim Root แห่ง Slipknot และ Clint Lowery แห่ง Sevendust

clip_image006

7) Gibson Explorer เป็นกีตาร์ที่มีรูปทรงเหมือนสายฟ้า ให้ความเป็น metal อย่างถึงกึ๋น James Hetfield ใช้เพียง Explorer ตัวสีขาวของเขาในการบันทึกเสียง rhythm ใน Ride the Lightning อัลบั้มที่จุดประกายให้กับวง metal นับล้าน

clip_image008

6) ESP Signature Series ถึงแม้จะไม่มีใครบอกเราได้ว่า ESP ย่อมาจากอะไร ("Eighties Spandex Pants" งั้นเหรอ? หรือว่า "Extra Small Pizza"?) เราเชื่อว่ามันย่อมาจาก "Evil Satan's Plan" เพราะว่ามือกีตาร์ metal ส่วนมากเล่น ESP กันทั้งนั้น Signature Series ของทางบริษัทรุ่นปัจจุบันนั้นมีรุ่นที่ออกแบบโดยสมาชิกของ Megadeth, Metallica และ Slayer ด้วย dream team ปิศาจชัดๆ เลยนะนี่

clip_image010

5) Jackson Randy Rhodes V Randy Rhodes ได้ออกแบบกีตาร์ทรงครีบฉลามนี้หลังจากที่เขาเข้ามาร่วมวงกับ Ozzy Osbourne เหล่าพลพรรคในวง black metal อย่าง Dimmu Borgir ก็ใช้กีตาร์ Rhodes พวกเขาเรียกมันว่า "mwa , a , laay bahgog"

clip_image012

4) Ibanez 7-String Universe ในตอนแรก Nigel Tufnel ออกแบบแอมป์ Marshall ที่ปรับขึ้นไปได้ถึง 11 ยังไม่หยุดแค่นั้น Steve Vai ได้พัฒนากีตาร์ให้มีสายที่เจ็ดเพิ่มขึ้นมา ต่อมา Munky และ Head แห่งวง Korn ก็นำ Ibanez เจ็ดสายนี้มาใช้เป็นแบบฉบับของตัวเอง จูนสายต่ำลงหลายคีย์และกางเกงพวกเขาก็จะใส่ต่ำลงเรื่อยๆ จนขอบกางเกงเกือบจะถึงเข่า บันทึกอีกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ดนตรีว่าวิวัฒนาการของเทคโนโลยีกีตาร์ metal นั้นก้าวไปหาจุดต่ำสุด Messuggah และ Fear Factory ก็ชอบมันเช่นกัน

clip_image014

3) Gibson SG ด้วยเขาปิศาจเรียวแหลมของลำตัว Gibson SG ที่เหมือนรูปทรงของหัวปิศาจซึ่งยิ่งพาให้ตีความกันไปได้ว่า SG อาจย่อมาจาก "Satan's Guise" แม้กระนั้น Tony Iommi แห่ง Black Sabbath และ Angus Young แห่ง AC/DC ก็ไม่เคยตกยุคตั้งแต่ใช้ SG ของพวกเขา

clip_image015

2) B.C. Rich Warlock มาเผชิญหน้ากับมันดูหน่อย นี่คือกีตาร์ที่ตั้งชื่อให้กับพ่อมด ทรวดทรงเพิ่มความแหลมคมของส่วนโค้งเว้ายิ่งกว่าอาวุธกังฟูที่จะไม่เคยเห็นบนเวที Lilith Fair แน่นอน กีตาร์นี้สำหรับ metal เพียวๆ ไม่มีอะไรเจือปน ซึ่งมันก็อธิบายได้ดีว่าทำไม Kerry King แห่ง Slayer และ Mick Thomson แห่ง Slipknot จึงรักกีตาร์ Warlock ของเขานัก ยังไม่เชื่อใจถึงที่มาที่ไปของ Warlock อีกรึ? มันผลิตจาก New Jersey เชียวนะ

clip_image017

clip_image0191) Gibson Les Paul แม้ว่ากีตาร์ Gibson Les Paul อาจจะมีรูปร่างไม่เหมือนเขี้ยวปิศาจหรือตุ๊กตาอาถรรพ์ใดๆ แต่ riff metal นั้นเล่นออกมาจาก Les Paul มากกว่ากีตาร์ใดๆ มือกีตาร์ตั้งแต่ Ace Frehley จนถึง Zakk Wylde นั้นยกให้ Les Paul เป็นกีตาร์เบอร์หนึ่งของพวกเขา มันเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้สร้างซาวด์ metal ของ Tool, Godsmack และ Hatebreed

TOP 10 METAL AMPS

10) Peavey Triple XXX นี่เป็นเวลาที่บริษัทผู้ผลิตแอมป์จะต้องเปิดกว้างหันมาร่วมมือกับวงการ metal บ้าง ซาวด์ที่ดุดันนี้เป็นที่โปรดปรานของ Max Cavalera ถึงแม้ว่าเขาอยากจะให้มีสาม input ก็เถอะ

clip_image021

clip_image0229) Mesa/Boogie Dual Rectifier Road King ผลงานจาก Mesa/Boogie ที่ได้ผลิต Dual Rectifier นี้มีแนวคิดที่ว่าต้องการจะให้มือกีตาร์กำหนดเสียง bottom end จะมากหรือน้อยได้ตามแต่ต้องการและไม่มีเสียงแตกระเบิดไม่ว่าจะเล่นเสียงคลีนหรือเสียงรก แอมป์ Road King มีความสามารถมากมายด้วย four-channel head สามารถให้โทนเสียงได้มากตามที่คิด มือกีตาร์จากวง Korn บอกว่ามันคือหัวแอมป์ที่ดีที่สุดที่เขามีนอกเหนือจากบริเวณเวที

8) Marshall MF350 ว่ากันว่า MF มีชื่อเล่นคือ "Mother Fuck" รูปลักษณ์ที่ผ่านการผสมผสานของเจ้าวายร้ายหน้าใหม่ตัวนี้มีคุณสมบัติทั้งที่เป็นที่สุดในด้าน tube, solid-state และ digital technology เพื่อให้ซาวด์ที่กระหน่ำรุนแรงได้ตามที่มือกีตาร์ metal รุ่นใหม่ๆ ต้องการ Hatebreed, System of a Down และ Staind เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นแฟนของแอมป์ชนิดนี้

clip_image023

7) Line 6 HD 147 มือกีตาร์ metal เคยต้องพึ่งสิ่งเล็กๆ น้อย เมื่อคำว่า "line" นั้นถึงทางตันแล้ว แต่ในวันนี้เพียงทำหน้าที่กับสายกีตาร์ไปก็พอ นั่นเป็นเพราะว่า Line 6 HD 147 สามารถทำเสียงแอมป์ยี่ห้อดังต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่ยังไม่ได้พูดถึงเสียงของแอมป์ boutique custom ที่เป็นที่ชื่นชอบของนักดนตรี metal ทั้งหลาย just say "yo!"

clip_image025

6) Marshall Valvestate 8100 ซาวด์แบบ Death เป็นอย่างไรน่ะเหรอ? ถ้าคุณเป็นแฟนของ Chuck Schuldiner ผู้ทรงอำนาจ คุณอาจจะพูดได้ว่า มันคือ Marshall Valvestate 8100 ผู้ที่ใช้ Valvestate 8100 อย่าง Tommy Victor (Prong), Wayne Static (Static X) และ Riggs (Rob Zombie) คือตัวอย่างของผู้ที่ใช้

clip_image027

5) VHT Pittbull Ultra Lead เป็นดั่งเช่นชื่อที่มันบอก แอมป์มากพิษสงนี้จะกัดคุณเสียกระจุยหากไม่ระวังมันให้ดี Mick Thomson แห่ง Slipknot และ Page Hamilton แห่ง Helmet คือสองผู้ใช้ที่ถูกสัตว์ร้ายตัวนี้ปล่อยมาได้เพื่อมาเล่าถึงเรื่องนี้ให้ผู้อื่นได้รับรู้

clip_image029

4) Randall Warhead Bush นั้นเข้าใจผิดทั้งเพเพราะว่าอาวุธทำลายล้างที่แท้จริงแล้วนั้นซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินของ Dimebag Darrell ใน Texas มือกีตาร์เคราม่วงแห่ง Pantera/Damageplan ออกแบบแอมป์ Warhead เพื่อให้ได้โทนเสียงสังหารอันรุนแรงสุดๆ กว่าที่เคยปรากฏบนพื้นโลก (แม้ว่ามันจะไม่ใช่นิวเคลียร์ก็เถอะ) ในราคาที่แม้แต่ประเทศเผด็จการโลกที่สามก็สามารถซื้อได้

clip_image030

3) Bogner Uberschall ไม่ใช่ครับ "uberschall" ไม่ใช่สโลแกนหาเสียงของ Arnold Schwarzenegger แต่มันเป็นภาษาเยอรมันหมายถึง "supersonic" (เร็วกว่าเสียง) และถ้าคุณกำลังอยากได้ซาวด์โหดๆ ใช้โปรดจำไว้ว่า Bogner Uberschall คือคำเยอรมันเพียงสองคำที่คุณจำเป็นต้องจำใส่กะโหลก Disturb, Slipknot และ Tool ล้วนแล้วแต่ใช้ Bogner มาช่วยเป็นกำลังทัพครองโลก

clip_image032

2) Mesa/Boogie Triple Rectifier Solo ประกอบด้วยสาม channel ที่แยกออกจากกัน Mesa/Boogie Triple Rectifier เป็นสินค้าประเภท three in one ที่น่าตื่นเต้นที่สุดนับตั้งแต่ DVD ล่าสุดของ Jenna Jameson แอมป์ Triple Rectifier นี้เห็นได้ตามเวทีของ P.O.D., Godsmack, Korn และ Metallica สิ่งที่มันทำหลังจากจบการแสดงของมันก็คือเริ่มเข้ามาเป็นกิเลสในใจของคุณ

clip_image034

1) Marshall JCM800 ตั้งแต่ที่มันเริ่มเปิดตัวในปี 1981 แอมป์ Marshall JCM800 ก็กลายมาเป็นแอมป์แห่ง metal ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะมันให้มันส์ได้มากกว่าที่โรงงานผลิตน้ำมันหมูจะให้คุณได้เสียอีก Zakk Wylde และ Kerry King แห่ง Slayer ต้องอุตส่าห์ยอมไปนอนค้างที่ Neverland Ranch กว่าจะได้แอมป์ JCM800 มาใช้

clip_image036

TOP 10 METAL EFFECTS

10) Electro-Harmonix Big Muff Pi มือกีตาร์ทั้งหลายต่างก็ใช้ distortion pedal นี้เพื่อให้ได้ซาวด์เสียงแตกออกมาจากแอมป์มานมนานกว่า 30 ปีแล้ว เราไม่แนะนำให้ต่อเข้ากับ Big Muff Pi ถ้าชุดของคุณไม่มีอะไรมากไปกว่า Jackson Dinky และ Small Stones คู่หนึ่ง

clip_image038

9) MXR Phase 90 เอ็ฟเฟ็คท์ Phase 90 นี้เป็นหนึ่งในเอ็ฟเฟ็คท์ phase shifters ที่มือกีตาร์ metal นิยมใช้กัน ลักษณะเสียง sweeping แบบนี้จะได้ยินจากอัลบั้มแรกของ Van Halen ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเสียงแบบนี้จะได้ยินจาก Eddie ตอนเขาทำความสะอาดโรงรถเท่านั้นก็ตาม

clip_image040

8) Boss DD-3 Digital Delay อยากจะได้ซาวด์ที่เหมือนกับว่าคุณเล่นสองครั้งมีโน้ตหลายตัวระหว่างการ solo มั้ย? แค่ต่อ DD-3 เข้าไปในสัญญาณของคุณแล้วก็ย่ำลงไป นักดนตรี metal มากมายใช้ delay pedal อันนี้แม้ว่าเราจะหาตัวอย่างของคนที่ใช้มันมายกให้ดูไม่ได้ก็ตามเถอะ

clip_image042

clip_image0447) Dunlop Uni-Vibe เป็นไปได้ว่าซาวด์หมุนวนหวือๆ แปลกๆ ที่คุณได้ยินจากคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดของ Godsmack, Korn หรือ P.O.D. นั้นจะมาจาก Dunlop Uni-Vibe นี้เอง ไม่ได้มาจากเบียร์สี่ขวดหรือดงกำปั้นในการเล่น mosh (การเล่นกระแทกกัน) Jimi Hendrix เคยใช้มัน ปัจจุบันเขาตายแล้ว

6) Line 6 DM4 Distortion Modeler ถูกใช้โดย Metallica และ System of a Down เอ็ฟเฟ็คท์ DM4 สามารถทำเสียง distortion pedal ได้ทุกอย่าง ถ้าเอ็นจิเนียร์ของ Line 6 สามารถประดิษฐ์กล่องที่สามารถสร้าง supermodel ที่เราอยากนอนด้วยได้ตามที่ต้องการก็ดีสินะ

clip_image046

5) Boss OC-2 Octaver สร้างเสียงต่ำลงหนึ่ง octave และสอง octave ในโน้ตที่คุณเล่นอยู่ Boss Octaver นี้สามารถทำเสียงต่ำได้ตามที่คุณจะเล่นได้ Tony Iommi และ Stephen Carpenter แห่ง Deftone ใช้เอ็ฟเฟ็คท์นี้เพื่อสร้างซาวด์ปิศาจของพวกเขา ถ้าจะเล่นต่ำกว่านี้ต้องเปลี่ยนไปเล่นเบสแล้ว แต่ทำอย่างนั้นอาจถูกแฟนทิ้งได้

clip_image048

4) Ibanez TS-9 Tube Screamer ถูกออกแบบมาเพื่อขับแอมป์ให้แรงขึ้นเพื่อให้เสียงดังขึ้น มันถูกใช้โดยมือกีตาร์ลีด Kirk Hammett เพื่อ boost สัญญาณขึ้น pedal นี้ตอบสนองได้ดีกับเหล่าผู้ที่ถูกไล่ออกจากบ้านเช่า ทาง Ibanez น่าจะเรียกมันว่า Screaming เจ้าของบ้านเช่า

clip_image050

3) Dunlop Cry Baby wah-wah ถูกออกแบบมาให้ทำเสียงกีตาร์ให้เหมือนกับพูดได้ เจ้า Cry Baby wah-wah นี้ถูกผลิตมาช่วงเดียวกับที่ LSD กำลังเป็นที่นิยม บังเอิญมั้ยเนี่ย? ก่อนที่ Deicide จะได้เซ็นสัญญา พวกเขาเคยถูกหาว่าพวกเขาเหยียบเด็กทารกเพื่อจะทำซาวด์คล้ายๆ กันนี้

clip_image052

2) DigiTech WH-1 Whammy นี่คือ Whammy pedal แบบฉบับดั้งเดิมที่เป็นทางเดียวที่จะทำให้คุณมีซาวด์แบบ "ลิงในเครื่องปั่น" ของ Dimebag Darrell หรือซาวด์ "คนบ้าถือสว่าน" ของ Tom Morello ได้ ตอนนี้ราคาขายทางฝั่ง eBay ก็มากกว่า 500 เหรียญ ถ้าจะยอมจ่ายมากขนาดนั้นคงต้องถือว่าเป็นคนบ้าในเครื่องปั่นแล้ว

clip_image054

1) Boss MT-2 Metal Zone หนึ่งใน pedal ยอดนิยมของ Boss เป็นประวัติการณ์ เอ็ฟเฟ็คท์ Metal Zone มีราคาถูกและสามารถสร้างซาวด์เบสอ้วนๆ แรงๆ ขุดเอาเสียงกลางหรือจะให้เสียงแหลมแตกซ่านก็ทำได้ไม่ยากซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ต้องการในกีตาร์ metal สมัยใหม่ Metal Zone เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรจะมีต่อจากแอมป์ของ Megadeth มือขวาของ James Hetfiled และ rack ของ Dimebag

clip_image056

อ้างอิง : Overdrive Guitar Magazine No.68, February 2004.

No comments: